Last updated: 31 ต.ค. 2561 | 15363 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดไม่ลับ เลือกกระดาษอย่างไรให้เหมาะกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์
การเลือกกระดาษเพื่อใช้พิมพ์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะเกี่ยวข้องกับคุณภาพผลการพิมพ์แล้ว ยังอาจส่งผลถึงความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องพิมพ์ เช่น กระดาษเข้าไปติดภายในเครื่อง ฟันเฟืองมีปัญหา และอาจลุกลามไปถึงเครื่องพิมพ์พังได้ เคล็ดไม่ลับที่จะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการเลือกกระดาษให้เหมาะกับงาน และเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะมีอะไรที่ควรรู้บ้าง มาเริ่มกันเลย
ข้อพิจารณาการเลือกซื้อกระดาษ
1. ระดับความหนา-บางของกระดาษ สามารถเลือกใช้กระดาษหนา-บาง เพื่อรองรับตามเครื่องพิมพ์ และได้ตามความประสงค์ที่จะใช้งานให้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. น้ำหนักกระดาษ สัมพันธ์กับความหนา-บางของกระดาษ มักใช้น้ำหนักเป็นปอนด์ หรือใช้หน่วยเป็นแกรมต่อตารางเมตร (g/m2) ดูว่าเหมาะกับงานประเภทใด
3. เนื้อกระดาษ และระดับความขาวของกระดาษ (Brightness rating) ใช้ค่าแทนได้ตั้งแต่ 1 จนถึง 100 ผู้ผลิตมักไม่ได้แจ้งไว้
4. ความมันของกระดาษ กระดาษที่มีสารเคลือบอยู่บริเวณผิวหน้า เพื่อไว้สำหรับดูดซึมหมึกที่ฉีดลงมา
5. ความด้านของกระดาษ มีสองแบบคือ แบบ Plain Paper และ Matte Paper ที่ไว้สำหรับพิมพ์ Photo
6. ประเภทกระดาษที่นำมาใช้ในงานพิมพ์ แบ่งคร่าวๆ ได้ประมาณ 5 ประเภท ได้แก่ กระดาษ Plain Paper กระดาษแบบมัน หรือ Glossy Paper กระดาษแบบด้าน Matte Finish Paper กระดาษโฟโต้ Photo Paper และแผ่นใส
กระดาษที่เหมาะกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์
1. ควรเลือกใช้เป็นกระดาษปกติสามัญทั่วไป หรือ Plain Paper ซึ่งมีหนา-บาง/น้ำหนักมาตรฐานอยู่ในช่วงประมาณ 70 ถึง 80 แกรม
2. หากต้องการใช้กระดาษชนิดอื่นๆ เช่น กระดาษแบบมัน (Glossy Paper) กระดาษแบบด้าน (Matte Finish Paper) กระดาษโฟโต้ (Photo Paper) ควรตรวจสอบเครื่องพิมพ์ก่อนว่ามีคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้หรือไม่ เนื่องจากกระดาษพวกนี้มักมีความหนา และน้ำหนักที่มากกว่า Plain Paper อาจไม่เหมาะกับเครื่องพิมพ์บางประเภท หรือบางรุ่น
3. การพิมพ์ลงบนแผ่นใส มักนำไปใช้กับการพรีเซนต์สไลด์ จำเป็นต้องใช้เครื่องพิมพ์ที่รองรับการพิมพ์เฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ละลายติดในเครื่องพิมพ์ขณะทำการพิมพ์ สติกเกอร์ก็เช่นกัน ควรเลือกกระดาษสติกเกอร์ที่เครื่องพิมพ์นั้นมีคุณสมบัติสามารถรองรับการพิมพ์แบบนั้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับกระดาษเพื่อรักษาเครื่องพิมพ์
1. เมื่อพิมพ์เสร็จหมาดๆ ควรรอให้หมึกบนกระดาษแห้งก่อนค่อยใส่เข้าไปในเครื่องพิมพ์อีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกไปเลอะภายในเครื่องพิมพ์ นอกจากทำให้เครื่องพิมพ์สกปรก การพิมพ์ครั้งถัดไปก็อาจได้งานไม่เรียบร้อย
2. ควรเลือกชนิดกระดาษ เนื้อ ความหนา-บาง น้ำหนัก ความมัน ฯลฯ ให้เหมาะสมกับงาน และเครื่องพิมพ์ที่ใช้ เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ และไม่เป็นการรบกวนเครื่องพิมพ์มากจนเกินไป
3. การนำกระดาษที่ใช้แล้วมาพิมพ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษรียูส หรือ กระดาษที่พิมพ์แล้วพิมพ์ใหม่ อาจเกิดปัญหาเครื่องติดขัดเนื่องจากกระดาษยุ่ย หรือกระดาษยับแล้วไปติดภายในเครื่องได้ ดีไม่ดี อาจทำให้เครื่องพิมพ์เสียหายจนเครื่องพังได้
4. ไม่เพียงแต่ต้องรักษาเครื่องพิมพ์ การรักษากระดาษเพื่อเตรียมการพิมพ์ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม คือ ควรระวังความชื้น เก็บไว้ในที่มิดชิดให้พ้นจากแสงแดด ไม่ควรใช้กระดาษที่เก็บไว้นานเกินไป เพราะกระดาษบางประเภทอาจเสื่อมสภาพลงเมื่อผ่านไปนานๆ
20 ธ.ค. 2567
23 ก.ค. 2567
31 ก.ค. 2567